IND คว้าโปรเจคขยายระบบจ่ายน้ำมันมูลค่า 50.60 ลบ.ดัน Backlog พุ่งแตะ 1,797.41 – มั่นใจปั๊มผลงานปีนี้โตตามเป้า15 %

IND คว้าโปรเจคขยายระบบจ่ายน้ำมันมูลค่า 50.60 ลบ.ดัน Backlog พุ่งแตะ 1,797.41 – มั่นใจปั๊มผลงานปีนี้โตตามเป้า15 %

บมจ. อินเด็กซ์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) โปรยข่าวดีคว้างานโครงการขยายระบบจ่ายน้ำมัน (Loading Rack) คลังน้ำมันพิจิตร จาก บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด มูลค่า  50.60 ล้านบาท ส่งผลให้งานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 1,797.41 ล้านบาท ฟาก “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ประกาศพร้อมยื่นประมูลโปรเจคใหม่จากภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง มั่นใจปั๊มผลงานปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15 %

ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (IND)  ผู้ให้บริการงานด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมครอบคลุมงานออกแบบพร้อมก่อสร้าง,งานบริหารโครงการขนาดใหญ่และควบคุมงานก่อสร้างของภาครัฐ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างงานโครงการขยายระบบการจ่ายน้ำมัน (Loading Rack) คลังน้ำมันพิจิตร จาก บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด    มูลค่าสัญญา  50,600,000 บาท  โดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม  ระยะเวลาดำเนินการราว 7 เดือน

ทั้งนี้ ภายหลังจากการรับงานใหม่ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็น 1,797.41 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ จากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงขยายงานของภาคเอกชนให้มากขึ้น เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มศักยภาพผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของรายได้และกำไรให้มีความมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการเร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมา ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ ซึ่งช่วยสนับสนุนให้การเติบโตของรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15 %

"จากการที่ได้รับการพิจารณาดำเนินโครงการ Loading Rack จาก บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด    จะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต"ดร.พรลภัส กล่าวในที่สุด

ข่าวเกี่ยวข้อง