TOHO GAS ร่วมลงทุนกับ SCN เสริมความแข็งแกร่งตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้นำธุรกิจ iCNG
TOHO GAS ยักษ์ใหญ่ด้านก๊าซธรรมชาติของญี่ปุ่น เข้าร่วมทุนกับ SCN ตอกย้ำความเชื่อมั่นในธุรกิจiCNG ช่วยเพิ่มศักยภาพการขาย พร้อมบุกตลาดขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สแกน อินเตอร์ หรือ SCN เปิดเผยว่า บริษัท เครือข่ายก๊าซ ไทย-ญี่ปุ่น จำกัด (TJN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SCN และ บริษัท Shizuoka Gas Company Limited ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) และก๊าซธรรมชาติเหลว (iLNG) ในประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ภายหลังจากที่ Shizuoka Gas ได้โอนหุ้น TJN ทั้งหมดจำนวน 49 % ไปยังบริษัท Thai ST Energy Investment Company ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ระหว่าง Shizuoka Gas Company Limited (ผู้ถือหุ้นเดิม) และ Toho Gas Co. Ltd. พันธมิตรรายใหม่ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ3 ของประเทศญี่ปุ่น ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 100 ปี เพื่อเข้ามาสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยให้เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ
สำหรับบริษัท TOHO GAS ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหา ก่อสร้างและขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติและพลังงานทางเลือกอื่นๆ และถือเป็นบริษัทด้านก๊าซธรรมชาติ อันดับสามของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 4.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“ทั้ง TOHO Gas และ Shizuoka Gas ถือเป็นบริษัทด้านพลังงานขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ที่มีศักยภาพและเป็นผู้นำในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ การเข้ามาร่วมลงทุนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและไว้วางใจ SCN ในฐานะผู้นำด้าน iCNG และจะมีส่วนสำคัญในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่บนเครือข่ายของพันธมิตรทั้ง2 รายจนทำให้สามารถเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการขายก๊าซธรรมชาติในประเทศได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปัจจุบันที่มียอดขายราว 5,000 MMBtuต่อวัน เป็น 10,000 MMbtu ต่อวัน” ดร.ฤทธี กล่าว
ขณะที่การร่วมลงทุนระหว่างทั้ง 2 บริษัทของญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ในการบุกตลาดทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจ iCNG ในประเทศไทย เนื่องจากทั้งสองบริษัท ถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจและได้รับความไว้วางจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจโดยใช้เครือข่ายลูกค้าแต่ละราย ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมด้วยองค์ความรู้ที่เข้าถึงการใช้พลังงานขั้นสูง เพื่อเสริมสร้างตวามแข็งแกร่งให้กับทีมขาย ที่จะสามารถบุกตลาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ