CPW ผลงานโค้งแรกสดใส กำไรพุ่งกว่า 21% โกยรายได้ 2,229 ลบ ได้แรงหนุนสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์-โทรศัพท์มือถือโต ย้ำปีนี้ลุยต่อตามเทรนด์ AI Phone
“บมจ.คอปเปอร์ ไวร์ด หรือ CPW” ผลงานโค้งแรกสดใส โชว์งบสวย! มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.61 ลบ. โต 21.35% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,229.15 ลบ. เพิ่มขึ้น 14.88% รับดีมานด์สินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์และโทรศัพท์มือถือเปิดตัวรุ่นใหม่ มั่นใจปี 67 เดินหน้าขยายการเติบโตสอดรับเทรนด์เทคโนโลยี ดันตลาด Gadget & Accessory และ Digital Lifestyle คึกคัก ควบคู่การจับมือพันธมิตรเพิ่มสินค้ากลุ่ม IoT และขยายช่องทางการจำหน่ายต่อเนื่อง
นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.35% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2566 ที่ทำได้ 20.28ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,229.15 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 1,940.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.88% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือและสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ขณะที่รายได้จากการขายสินค้าคอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ตลดลง
อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.10% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1.05% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.03% ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 12.58% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้การขายสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าสินค้าประเภทอื่น
โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจำนวน 105 สาขา (เทียบกับปี 2566 มี 104 สาขา) ประกอบด้วย ร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) จำนวน 23 สาขา, ร้าน Apple Brand Shop จำนวน 28 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จำนวน 18 สาขา U.Store by copperwired จำนวน 9สาขา และ Ai_ จำนวน 1 สาขา), ศูนย์บริการ iServe จำนวน 3 สาขา, ร้าน AIS จำนวน 26 สาขา, Samsung จำนวน 20 สาขา และ ร้าน Xiaomi จำนวน 5 สาขา
นายปรเมศร์ กล่าวถึง การดำเนินงานของบริษัทฯ ปี 2567 ว่า ปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากที่ตั้งแต่ไตรมาส 3ของปี 2566 บริษัทฯ ได้เริ่มแผนขยายช่องทางการจำหน่ายร่วมกับพันธมิตรธุรกิจซึ่งเป็นระดับบิ๊กเนมชั้นนำเพื่อจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้มากขึ้น ประกอบกับได้หาสินค้าแบรนด์ไลฟ์สไตล์ รวมถึง IoT เข้ามาเสริมพอร์ตและตอบโจทย์ความต้องการหรือเทรนด์ผู้บริโภคมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าธุรกิจจะได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ กับ AI Phone โทรศัพท์มือถือที่พาก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างยิ่งใหญ่จาก Samsung Galaxy S24 Series เพราะในช่วงที่ผ่านมามีการจองผ่านช่องทางร้าน Samsung ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ ร้าน dotlife และช่องทางออนไลน์ โดยปัจจุบันยังคงได้กระแสตอบรับจากลูกค้าจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง และน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีแรกของปี 2567 กลับมาคึกคักได้ ซึ่งรวมถึงสินค้ากลุ่ม Gadget & Accessory และ Digital Lifestyle ที่คาดว่าน่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน