LEO ส่งซิก Q2ปี64ดีต่อเนื่องจับมือ China Postลุยขยายบริการร่วมกัน

LEO ส่งซิก Q2ปี64ดีต่อเนื่องจับมือ China Postลุยขยายบริการร่วมกัน

บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) ส่งสัญญาณไตรมาส 2/64 อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังคงสดใสปริมาณขนส่งคึกคัก ค่าระวางปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" ซีอีโอเดินหน้าขยายบริการกับ China Post พันธมิตรใหม่ ต่อยอดธุรกิจขนส่งสินค้า E-commerce ระหว่างประเทศ รวมทั้งเร่งขยายพื้นที่ LEO Self Storage และ Container Depot สนับสนุนผลงานปีนี้ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยข้อมูล ใน กิจกรรม Opportunity Day เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ว่าในช่วงไตรมาส2/2564 แนวโน้มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้ง อัตราค่าระวางทั้งทางเรือ ทางอากาศ ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูง และคาดว่าจะยืนสูงไปได้ถึงครึ่งแรกของปีนี้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินหน้าขยายบริการจากการจับมือกับพันธมิตรอย่าง China Post Group ซึ่งจะช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้กับ LEO ในการพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้า International/Cross Border E-commerce และธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศให้เติบโตขึ้น และทำให้ในปี 2564 บริษัทฯ มีการเติบโตทางรายได้ไม่น้อยกว่า 40-45% และคาดว่าจะผลักดันให้รายได้สามารถทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่

รวมทั้ง บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการขยายธุรกิจลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) แห่งที่ 2 บริเวณถนน บางนา-ตราด ขาเข้า กม.21 เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการ เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมเผชิญกับภาวะขาดแคลนพื้นที่ให้บริการ พักตู้สินค้า คาดว่าสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างช้าไม่เกินไตรมาส 4 ปี 2564 โดยโครงการลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ แห่งที่ 2 นี้ มีเนื้อที่ 31 ไร่ มีขนาดใหญ่กว่าโครงการที่ 1 ที่มีเนื้อที่ 12.5 ไร่ ประมาณ 2.5 เท่า ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เพียงพอที่จะสามารถทำลานให้บริการตู้ Reefer Container ที่สามารถสร้างรายได้จากบริการ Value Added Services มากกว่าตู้ Dry Container  

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในโครงการบริการห้องเก็บของส่วนบุคคล (Self Storage) แห่งที่ 2 ที่มีพื้นที่เพิ่มอีก 2-3 พันตารางเมตร โดยจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ย่านเยาวราช หรือChina Town ของกรุงเทพ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยใช้ชื่อว่า LEO Self Storage China Town

" สำหรับงบลงทุนในปีนี้คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโลจิสติกส์ โดย เร็วๆ นี้คาดว่าจะมีการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่เพิ่มเติมอีก ดังนั้นน่าจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2566 จะมีการเติบโตเป็น 2 เท่า หรือ 2,000 ล้านบาท จากปี 2564" นายเกตติวิทย์กล่าว

อนึ่ง บริษัทฯรายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 9.3 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 473.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 228.1 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณและความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ค่าระวางในการขนส่งสินค้ายังคงปรับตัวสูงขึ้นรวมทั้งบริษัทมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้สามารถบริหารอัตรากำไรขั้นต้นได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ข่าวเกี่ยวข้อง