STARK กำไรแตะ 2,783 ลบ. พุ่ง 83%รับรู้รายได้งานภาครัฐและเอกชน - ธุรกิจในเวียดนาม หนุนปี 65 ปักธงรายได้ทะลักกว่า 30,000 ลบ. ทำนิวไฮต่อเนื่อง

STARK กำไรแตะ 2,783 ลบ. พุ่ง 83%รับรู้รายได้งานภาครัฐและเอกชน - ธุรกิจในเวียดนาม หนุนปี 65 ปักธงรายได้ทะลักกว่า 30,000 ลบ. ทำนิวไฮต่อเนื่อง

STARKแจ่ม! โชว์ผลงานปี 2564 รายได้หลักแตะ 27,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.7% กวาดกำไรสุทธิ2,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากปีก่อน ผลจากการรับรู้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากธุรกิจในประเทศเวียดนาม รวมถึงงานโครงการภาครัฐและเอกชนยังเติบโตได้ดี ประกอบกับกลยุทธ์ เน้นสินค้ามาร์จิ้นสูงฟากซีอีโอ "ประกรณ์ เมฆจำเริญ" ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 30,000 ลบ. เดินหน้าลุยธุรกิจ EV และลุยออกสินค้าใหม่ กอด Backlog กว่าหมื่นล้านบาท ดันผลงานทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง

นายประกรณ์  เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือSTARK  เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้หลัก 27,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,235 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 60.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 16,858 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,263 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,520 ล้านบาท และมีอัตราส่วนกำไร (Net profit margin) เท่ากับ 10.3%

"ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการรับรู้ยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากงานในโครงการภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องตามแผนงานและกำหนดการที่วางไว้ สอดคล้องกับกลยุทธ์การมุ่งเน้นกลุ่มสินค้า High Margin โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลางจนถึงระดับสูงพิเศษ (Medium – Extra High Voltage) ที่มีการเติบโตสูงเพื่อรองรับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน ประกอบกับผลการดำเนินงานของธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม มีอัตราการเติบโตที่ดีทั้งในส่วนรายได้และกำไรอีกด้วย"

เขากล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า30,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนการขยายฐานรายได้เข้าสู่ธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตทั่วโลก ประกอบกับมีสายไฟเป็นปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงชุดสายไฟตามเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน

นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนการผลิต และจำหน่ายสินค้าใหม่ในกลุ่ม High-Margin อาทิเช่น สายไฟSubmarine Cable หรือ เคเบิลใต้น้ำ , สายไฟ HVDC Cable หรือ ระบบสายส่งกระแสตรงแรงดันสูงใช้สำหรับในการส่งกำลังไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสตรงทำให้สามารถเชื่อมระบบไฟฟ้ากระแสสลับต่างระบบที่มีความถี่ต่างกันได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องทำการซิงโครไนซ์ และ Transmission line หรือสายส่งหรือสายนำสัญญาณ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีสินค้าชนิดอื่นที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาสินค้าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายต่อไป เช่น เทปพันสายไฟสำหรับ สายไฟ High Voltage และ PD Conduit อีกด้วย

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเป็นงานทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง และเป็นการรองรับการเติบโตในอนาคต

ข่าวเกี่ยวข้อง