ซันเดย์ อินชัวร์เทค พลิกโฉมวงการประกันภัยยุคใหม่ ผ่าน AI ชูการคำนวณเบี้ยแบบเลโก้โมเดล
กรุงเทพฯ ประเทศไทย - 30 มีนาคม 2566 - บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด (“Sunday“) กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและการประกันภัยเต็มรูปแบบ (Full-stack insurtech) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำโดย นายสุรเดช พานิช ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Chief Data Scientist) เข้าร่วมงานเสวนา “ยานยนต์ไฟฟ้าและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต” จัดโดย สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง ณ ห้องประชุมจูปิเตอร์ 4 ศูนย์เเสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนายสุรเดช ได้แชร์อินไซต์การใช้ AI ในอุตสาหกรรมประกันภัย ในหัวข้อ “พลิกโฉมวงการประกันภัยยุคใหม่ ผ่าน AI” ซึ่งทางซันเดย์ได้นำ AI เข้ามาช่วยคำนวณเบี้ยประกัน โดยลูกค้าจะได้ราคาเบี้ยที่ออกแบบมาโดยเฉพาะแต่ละบุคคล ในราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ซันเดย์ยังใช้โมเดลการออกแบบราคา(Pricing engine) ที่สามารถสลับเข้าปรับเปลี่ยนได้หลายโมเดล (เหมือนการต่อเลโก้) ในการออกแบบราคา ซึ่งทำให้เบี้ยประกันของซันเดย์ สามารถปรับ เสริม เติมแต่งได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการใช้ AI เข้ามาพัฒนาการให้บริการอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การเคลม และการประเมินราคาค่าซ่อม
ในปัจจุบันผู้คนเริ่มให้ความสนใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวรถไฟฟ้าของค่ายรถยักษ์ใหญ่มากมายในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น MG และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่น ORA อ้างอิงจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในประเทศไทยถือว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากกว่า 200% ภายในปีนี้
จากการสนับสนุนของทุกภาคส่วน รวมถึงการตระหนักรู้ในสิ่งแวดล้อมของผู้คน ซึ่งประกันภัยถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองในยุคที่ผู้คนให้ความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย โดยปัจจุบันซันเดย์ได้จำหน่ายประกันรถยนต์ไฟฟ้าออนไลน์อีก 2 แบรนด์ ได้แก่ MG และ เกรท วอลล์ มอเตอร์นอกเหนือไปจากการให้การรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งในอนาคตเรามีแพลนที่ขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งทางซันเดย์ได้นำ AI มาคำนวณเบี้ยที่ทำให้ลูกค้าได้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่สมเหตุสมผลและยกระดับบริการผ่านการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น
AIเฟืองสำคัญของวงการประกันภัยยุคใหม่บริษัทประกันโดยทั่วไปจะคิดเบี้ยประกันจากการการนำความเสี่ยงของทุกคนมาเฉลี่ยเพื่อหาเบี้ยประกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซันเดย์เล็งเห็นถึงความแตกต่างนี้จึงได้นำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์เบี้ยประกันเพียงไม่กี่วินาทีคุณก็สามารถได้ราคาเบี้ยประกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุณ โดยเฉพาะ ซันเดย์คำนวณค่าเบี้ยจากข้อมูลภายใน (Internal data) เช่น ข้อมูลการเคลมและข้อมูลที่คุณ กรอกผ่านเว็บไซต์ และข้อมูลภายนอก (External data) เช่นที่อยู่ โดยนำข้อมูลเหล่านี้มาคำนวณ (Analytic data set) ซึ่งหลังจากคำนวณแล้ว AI จะดักจับความเสี่ยงของคุณเพื่อคำนวณทุนเบี้ยประกัน ยกตัวอย่างเช่น บริเวณที่คุณอาศัยมีทางโค้งอันตรายหรือไม่ คุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหรือไม่ รวมไปถึงอัตราการเกิดอุบัติเหตุในละแวกที่คุณอยู่ โดยทุนประกันของคุณจะถูกลด ปรับ เพิ่มผ่านปัจจัยต่างๆ เช่น การติดตั้งกล้องโปรโมชัน รวมไปถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยราคาค่าเบี้ยประกันยังอยู่ในข้อกำหนดของคปภ.
การคำนวณเบี้ยประกันแบบเลโก้โมเดลโดย AI
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุตสาหกรรมประกันเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดจากภาครัฐหรือการสนับสนุนต่างๆ ทำให้โมเดลการคำนวณเบี้ยประกันต้องมีความยืดหยุ่น เพื่อให้การคำนวณเบี้ยประกันสามารถทำได้อย่างเรียลไทม์ ซันเดย์เลยใช้เลโก้โมเดล กล่าวคือทุกปัจจัยที่มีส่วนในการคำนวณเบี้ยประกันภัยสามารถปรับ เสริม เติมแต่ง ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เหมือนบริษัทประกันทั่วไป ยกตัวอย่าง ประกันรถไฟฟ้า มีความเสี่ยงใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ ค่าแรงของช่างซ่อมเฉพาะทาง (Technician cost) ที่อาจจะมีราคาสูงกว่าช่างซ่อมรถสันดาปทั่วไปราคาแบตเตอรี่ที่สูงขึ้น การลดภาษีของกรมสรรพสามิตการนำเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันรถไฟฟ้า ซึ่งซันเดย์สามารถนำปัจจัยเหล่านี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าไปในระบบการคำนวณเบี้ยประกันได้ทันที ทำให้ผู้บริโภคสามารถได้รับค่าเบี้ยที่เหมาะสมและถูกต้องอย่างรวดเร็ว
เคลมยุคใหม่ รวดเร็ว แม่นยำ โปร่งใส
กระบวนการเคลมถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ทั้งตัวผู้บริโภคเองและบริษัทประกันภัยพบเจอปัญหาอยู่บ่อยครั้ง เช่น การประเมินความเสียหายจากบริษัทประกันและอู่ซ่อม ซึ่งปัจจุบันจะถูกวินิจฉัยผ่านดุลพินิจของ
บริษัทประกันและอู่ ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่มีความแม่นยำ ใช้เวลานาน รวมถึงอาจจะไม่โปร่งใสได้ แต่การที่เรานำ AI เข้ามาช่วยประเมินความเสียหายนั้นสามารถขจัดข้อโต้แย้งส่วนบุคคล (Personal objections) ได้อย่างชัดเจน และแม่นยำ สมเหตุสมผลมากขึ้น โดย AI จะคำนวณความเสียหายและประเมิณผ่านรูปภาพ ยกตัวอย่าง การเคลมแบบไม่มีคู่กรณี (Dry claims) คุณสามารถถ่ายรูปความเสียหายโดยส่งรูปมาที่แอปพลิเคชัน ซึ่ง AI สามารถคำนวณความเสียหาย พร้อมออกใบ เคลมได้ภายใน 5 นาทีโดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (Surveyor) ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็วเมื่อเทียบกับกระบวนการเคลมทั่วไป
บริษัทประกันที่อยากเป็นเพื่อนแท้ของคุณ
บริษัทประกันสามารถพัฒนาและยกระดับการให้บริการได้ไปอีกระดับผ่านการทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น รถในปัจจุบันมีเซนเซอร์อยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ดังนั้นหากบริษัทประกันสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเหล่านั้นได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุคุณไม่จำเป็นต้องโทรหาบริษัทประกัน หรือรถพยาบาล แต่บริษัทประกันสามารถจับเซนเซอร์ของรถแล้วสามารถรู้ได้ทันทีว่ารถประสบอุบัติเหตุ รวมไปถึงการแจ้งเตือนความเสี่ยงต่างๆ เช่น แจ้งเตือนคุณว่าถนนข้างหน้าจะมีหลุม ให้ชะลอความเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่ของคุณได้ ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะสามารถปฏิวัติวงการประกันได้อย่างแน่นอน รวมถึงยกระดับการให้บริการแก่ผู้รับบริการ
นายสุรเดช พานิช ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า “หลายคนอาจจะมีการเข้าใจว่า อินชัวร์เทคคือประกันที่คุณสามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ ซึ่งความจริงแล้ว อินชัวร์เทค คือการนำเทคโนโลยีกับประกันมาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนา 3 ด้าน หลักๆ ดังนี้ 1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.การยกระดับการให้บริการ และ 3. การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งซันเดย์ เป็น อินชัวร์เทค อย่างเต็มรูปแบบ หรือที่เรียกว่า Full-stack insurtech นั้นเอง เรานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหาร การจัดการ อย่างเต็มรูปแบบ ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีอย่างแท้จริง โดยการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณเบี้ย การคำนวณความเสียหาย เป็นสิ่งที่ซันเดย์ทำมาเป็นระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และเรายังคงไม่หยุดพัฒนาเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค”