MASTER ทำ All Time High โชว์ Q3/66 กำไร 99.80 ลบ. ทุบสถิติใหม่ส่งซิก Q4/66 เป็นช่วง High Season - ตั้งเป้าอีก 3 ดีลภายในสิ้นปีนี้

MASTER ทำ All Time High โชว์ Q3/66 กำไร 99.80 ลบ. ทุบสถิติใหม่ส่งซิก Q4/66 เป็นช่วง High Season - ตั้งเป้าอีก 3 ดีลภายในสิ้นปีนี้

บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ หรือ MASTER ประกาศงบโค้ง 3/66 กำไรและรายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ All Time High โชว์กำไร 99.80 ลบ. เติบโต 17% และรายได้ 479.25 ลบ. เติบโต 19.5% ขณะที่งบ 9 เดือนโกยกำไร 252.85 ลบ. เติบโต 14% และรายได้ 1,374 ลบ. เติบโต 36% เหตุโดดเด่นทุกหัตถการ นำโดย “ศัลยกรรมเสริมจมูก-ศัลยกรรมดูดไขมัน-ศัลยกรรมยุบโหนกตัดกราม-สุขภาพชาย” แถมส่งซิกQ4/66 ยังเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ เดินหน้าฉายภาพการเติบโตในด้านของ Organic ส่วนด้าน Inorganic ตั้งเป้าอีก 3 ดีลภายในสิ้นปีนี้ หวังสร้างโอกาสเพิ่มรายได้-กำไรสุทธิแข็งแกร่งต่อเนื่องในอนาคต

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือMASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช: Masterpiece Hospital” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 99.80 ล้านบาท เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 85.10 ล้านบาทโดยในไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลรายได้อยู่ที่ 479.25 ล้านบาทเติบโต 19.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 401.20 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 252.85 ล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 222.22 ล้านบาท โดย MASTER มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 1,374.20 ล้านบาท เติบโต 36% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1,011.14 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเติบโตหลักมาจากรายได้ ที่เติบโตต่อเนื่องในทุกหัตถการ โดยเฉพาะ ศัลยกรรมเสริมจมูกศัลยกรรมดูดไขมัน ศัลยกรรมยุบโหนกตัดกราม และสุขภาพชาย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ  เนื่องจากบริษัทฯ เพิ่มจำนวนแพทย์ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

นายแพทย์ระวีวัฒน์  กล่าวเสริมว่า MASTER พร้อมฉายภาพไปสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางโดยมุ่งการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยแผนกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัทไม่เกิน 40% ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีความชัดเจนและจะรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ กลยุทธ์การมองหาดีลของ MASTER จะมีลักษณะประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ คือ 1. เจ้าของธุรกิจมี Passion ในการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 2. ธุรกิจที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักในพื้นที่ของตัวเอง และ 3. มี Synergy กับธุรกิจของ MASTER

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แห่ง MASTER กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 นี้ บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทำจุดสูงสุดใหม่ All Time High ทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากมีการเพิ่มการใช้ห้องผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าทิศทางไตรมาส 4/2566 ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ โดยน่าจะส่งผลบวกต่อภาพรวมของบริษัทฯ

สำหรับความคืบหน้ากิจการที่เข้าลงทุนนั้น ไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะรับรู้กำไรของ WIND Clinic - Rattinan Medical Center - บริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด (Dr.Chen) และบริษัท คินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) ทั้งนี้ การ Synergy กับบริษัทเหล่านี้ เข้ามาช่วยให้การดำเนินกิจการของทั้งกลุ่ม จะช่วยสนับสนุนปัจจัยทางด้านต้นทุนให้บริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพและเติบโตร่วมกัน

ทั้งนี้ คาดว่าช่วงที่เหลือของปี 2566 ของ MASTER มีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 ดีลภายในสิ้นปีนี้ โดยหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ในปีนี้ MATER จะมีดีลซื้อกิจการทั้งหมด 7 ดีล โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากจะส่งผลบวกต่อบริการของทั้งกลุ่ม ช่วยให้เกิด Economy of Scale ในเรื่องของเวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต

 

ข่าวเกี่ยวข้อง