SNNP ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่นลุยออกสินค้าใหม่ หนุนยอดขายโตเข้าเป้าปักหมุดปี 65 รายได้แตะ 5,000 ลบ.ทำนิวไฮต่อเนื่อง
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ประเมินแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังโตโดดเด่น จากยอดขายที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง พร้อมลุยออกสินค้าใหม่ๆบุกตลาดเต็มพิกัด จากสินค้าหลัก เจเล่ และเบนโตะหนุนยอดขายคึกคัก ฟากผู้บริหาร "วิโรจน์ วชิรเดชกุล"มั่นใจรายได้ปี 65 โตทะลุเป้าแตะ 5,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพรมาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ และออกสินค้าใหม่ เนื่องจากมีดีมานด์ความต้องการสูงจากกลุ่มผู้บริโภค ที่ต้องการสินค้ารสชาติใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่ และเบนโตะ ที่ได้รับความนิยมสูง
"บริษัทฯมีแผนที่เตรียมออกสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเอาใจผู้บริโภค เพิ่มความหลากหลาย สร้างกระแสความน่าสนใจ และที่ผ่านมา สินค้าใหม่ที่ออกสู่ตลาดไปแล้ว ได้แก่ เจเล่ชิววี่ น้ำกัญชาสกัดเมจิกฟาร์มขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชา และขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมเมล็ดกัญชง รวมถึงโลตัสหนังไก่ทอดช่วยให้ยอดขายในประเทศเติบโต ทำให้ตลาดขนมคบเคี้ยวมีความคึกคัก ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค"
สำหรับกลยุทธ์ทางด้านการตลาดจะมีการปรับโฉมสินค้า “เจเล่” รวมถึงการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ๆเพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภค เพื่อเป็นการสร้างกระแสให้กับกลุ่มผู้บริโภคครั้งใหญ่ในช่วงไตรมาส 3/2565 รวมถึงตลาดต่างประเทศที่บริษัทฯจะเร่งขยายช่องทาง และลงทุนสร้างฐานธุรกิจไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะประเทศเวียดนาม กัมพูชา หรือ ประเทศส่งออกอื่นๆ คาดว่ายอดขายในปี 2565 จะแตะที่ระดับ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ตามแผนงานที่วางไว้
อนึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 ล้านบาท หรือ 57% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 74 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266 ล้านบาท หรือ 25% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 1,073 ล้านบาท
ในขณะที่ครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษ อยู่ที่ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90 ล้านบาท หรือ 62% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิดังกล่าวอยู่ที่ 145 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจหลักรวมอยู่ที่ 2,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท หรือ 18% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 2,086 ล้านบาท