SSP เปิดกำไร 9 เดือนปี65 พุ่ง 59% ออลไทม์ไฮเร่งขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบพร้อมตั้ง Sermsang Next Ventures ลุยธุรกิจใหม่หนุนอนาคตโตก้าวกระโดด
บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 65 กำไรสุทธิโต 58.9 % แตะระดับ 1,225.6 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษจากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะในญี่ปุ่น ส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27.0% ฟากบิ๊กบอส“วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจผลงานปีนี้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเร่งขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบหลังมีฐานทุนแข็งแกร่ง ปักหมุดปี 68 กำลังการผลิตไฟฟ้าโตเท่าตัว แตะ 500 เมกะวัตต์ พร้อมจัดตั้งบริษัทลงทุน Sermsang Next Ventures ลุยธุรกิจใหม่สร้าง New S-curve สนับสนุนผลงานในอนาคตให้เติบโตก้าวแบบกระโดด
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) SSP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,225.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 454.5 ล้านบาท หรือ 59% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการรับรู้กำไรพิเศษในไตรมาสที่ 2/2565 จากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำไร 348.4 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP มีกำไรจากการดำเนินงานปกติสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2565 ที่ 848.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.0% ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 1,884.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 400.8 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
ในงวดไตรมาส 3/2565 โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 739.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.1 ล้านบาทหรือ 8.5 เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินงาน 258.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 577.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานหลักที่เติบโตต่อเนื่อง มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ในประเทศญี่ปุ่นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 48 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าวินด์ชัยฟาร์ม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 25% และจะเห็นว่า โครงการต่างๆที่บริษัทฯเข้าไปลงทุนล้วนเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จสามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดีมาโดยตลอด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2565 ยังมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานลม เนื่องจากเป็นซีซั่นที่ดีของลม ทั้งนี้บริษัทฯยังเตรียมปิดดีล M&A อีก 1-2 ดีล ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา โดยเกี่ยวข้องกับธุรกิจ Renewable และธุรกิจที่อยู่ในธีมของ sustainable เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับเทรนด์ในอนาคต นอกจากนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าRenewable ทุกรูปแบบ โดยมีความคืบหน้าในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 17 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่ามีความพร้อมที่จะจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวแตะ 500 เมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 232 เมกะวัตต์
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า SSP ประสบความสำเร็จในการเป็นโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ มีทั้ง green field และ brown field เน้นการใช้กลยุทธ์ทำ M&A strategy มากขึ้น โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2565 แนวโน้มรายได้และกำไรจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้” นายวรุตม์กล่าวในที่สุด