TPL มั่นใจเข้าเทรดวันแรกสร้างความประทับใจไม่ทำให้ผิดหวังกระแสตอบรับคึกคัก-มองออกอนาคตเป็นหุ้น High Growthหนี้สินต่อทุนต่ำ 0.5 เท่า – มีนโยบายจ่ายปันผลสูง 50%

TPL มั่นใจเข้าเทรดวันแรกสร้างความประทับใจไม่ทำให้ผิดหวังกระแสตอบรับคึกคัก-มองออกอนาคตเป็นหุ้น High Growthหนี้สินต่อทุนต่ำ 0.5 เท่า – มีนโยบายจ่ายปันผลสูง 50%

บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) หุ้นไอพีโอน้องใหม่ มั่นใจเทรดวันแรกกระแสการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ชูจุดเด่นบริษัทชั้นนำในธุรกิจโลจิสติกส์ที่แตกต่างเน้นส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมากหลากรูปทรงให้บริการทุกจุดทั่วไทย ลุยพัฒนาศักยภาพจัดส่งก้าวสู่ "Green logistics" พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ฟากซีอีโอ"ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา" มั่นใจการระดมทุนครั้งนี้ ช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน สนับสนุนฐานะการเงินแข็งแกร่ง ฐานทุนแน่น สามารถรักษาอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 0.5 เท่า และ จากนโยบายเงินจ่ายปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50%ของกำไรสุทธิจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ

นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL เปิดเผยว่าในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หุ้นTPL จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)ในหมวดบริการ โดยบริษัทฯมีจุดเด่นการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยบริการจัดส่งพัสดุทุกขนาดทั้ง B2B, B2C และ C2C มีความโดดเด่นในด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก (Odd size/Oversize) ทั้งยังสามารถตรวจเช็คสถานะขนส่งได้แบบ Real-time ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี

โดยภาพรวมผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาส1/2566 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.41 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.90% จากงวดเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 18.04% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) 0.53 เท่า

"การระดมทุนในครั้งนี้จะผลักดันให้อนาคต TPL เป็นหุ้น High Growth เพราะทำให้เพิ่มศักยภาพการจัดส่งและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนสนับสนุนความสามารถทำกำไรสูงขึ้นช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน สนับสนุนฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการรักษาฐานอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 0.5 เท่า สามารถให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นได้ในระดับที่ดีในระยะยาวโดยปัจจุบันบริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50%ของกำไรสุทธิ"

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งกา รลงทุนสร้างศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Regional Hub) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกและกระจายสินค้า, การเพิ่มจุดให้บริการ (Drop Point) แก่ลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการ และการลงทุนในยานพาหนะทั้งรถบรรทุก 10 ล้อ และ 6 ล้อ ซึ่งใช้สำหรับการขนส่งในเส้นทางระหว่างภูมิภาค (Line Haul) เป็นหลัก และรถกระบะ 4 ล้อ ซึ่งใช้สำหรับการกระจายสินค้าสู่ผู้รับปลายทาง เพื่อให้บริษัทมีกองยานพาหนะที่สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

รวมทั้งบริษัทฯยังมีแผนที่จะปรับกองยานพาหนะของบริษัทด้วยการนำรถบรรทุกซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามาใช้ภายในปี 2566 โดยเริ่มจากเส้นทางในเขตภาคกลางและภาคตะวันออก และจะเร่งพัฒนาศักยภาพเพื่อก้าวสู่การขนส่งด้วยระบบ"Green logistics" ช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะเดียวกันบริษัทฯมีกลยุทธ์ในการดำเนินงานจะให้ความสำคัญกับพัฒนาบุคลากรและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งและระบบสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า มั่นใจว่าTPL จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้น่าประทับใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงมีจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งจากโครงสร้างการให้บริการมั่นคงและครอบคลุมทั่วประเทศ จากประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สั่งสมมากกว่า 18 ปี ฐานลูกค้าที่หลากหลายทั้ง B2B B2C และ C2C ระบบสารสนเทศพร้อมรองรับการเป็น Data Driven Org.ได้ในอนาคต

นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า TPL เริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการขนส่ง และพัฒนามาเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่มีความแตกต่างจากผู้ประกอบการทั่วไปอย่างเด่นชัด และสามารถเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจมาได้ทุกครั้ง โดยสะท้อนได้จากการรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนและโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้มากขึ้น ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ข่าวเกี่ยวข้อง