ธ.ก.ส.ชวนเกษตรกรทำประกันภัยป้องกันความเสี่ยงโรคลัมปีสกิน
ธ.ก.ส. หนุนเกษตรกรทำประกันภัยโคนมและโคเนื้อ ป้องกันความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินคุ้มครองการตายจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติและการเจ็บป่วย รวมถึงโรคลัมปีสกินที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ วงเงิน 30,000 บาท/ตัว กรณีโคนมค่าเบี้ยประกันภัย 810 บาท/ตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี และโคเนื้อค่าเบี้ยประกันภัย 400 บาท/ตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน ติดต่อซื้อกรมธรรม์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปณ ธ.ก.ส. ทุกสาขา
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในโคและกระบือ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยพบการระบาดแล้วกว่า 62 จังหวัด ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงและ สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค ธ.ก.ส. จึงได้จัดทำประกันภัยผ่านโครงการประกันภัย โคนมและโครงการประกันภัยโคเนื้อ เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายของเกษตรกรผู้เลี้ยงโค อันเนื่องมาจากการตายของโคที่เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ให้สามารถพยุงตัวได้และมีทุนเหลือเพียงพอต่อการเริ่มต้นใหม่
ทั้งนี้ โครงการประกันภัยโคนม มีบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย โดยคิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 810 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) ซึ่งให้ความคุ้มครอง การตายจากการเจ็บป่วยของโคนม ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว การตายจากอุบัติเหตุ ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อตัว และการตายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม และลมพายุ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว มีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี โดยโคนมต้องมีใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์ อายุโคนมตั้งแต่ 18 เดือน – 8 ปี และ ทั้งนี้ สามารถ ทำประกันภัยโคนมบางตัวในฟาร์มได้
ด้านโครงการประกันภัยโคเนื้อ มีบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท สินมั่นคงประกันภัยจำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย โดยคิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) ซึ่งให้ความคุ้มครองการตายจากการเจ็บป่วยของโคเนื้อ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัวและการตายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม ดินถล่ม พายุ และแผ่นดินไหว ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัวระยะเวลาคุ้มครองสิ้นสุดเมื่อส่งขายคอกกลางหรือ 6 เดือนนับจากวันขอเอาประกันภัย โดยโคเนื้อที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีความพิการซึ่งมีผลกับสุขภาวะ และไม่เป็นโรคเรื้อรัง ไม่อยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล มีอายุไม่เกิน 36 เดือน ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ และมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ (NID คือ การเขียนที่ใบหู / RFID คือ การฝังชิบที่ใบหู) มีบันทึกประวัติถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย และโรคคอบวม (Hemorrhagic Septicemia) มาแล้ว ไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ขอเอาประกันภัย โดยเกษตรกรผู้เอาประกันภัยจะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนของโคเนื้อ
ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการ ผู้ขอเอาประกันภัยต้องเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ โดยโคที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคหรือไม่เจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอยหรือภายในช่วง 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง