พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 307 ล้านหุ้นระดมทุนเข้า SET รองรับแผนขยายธุรกิจโตติดปีกบิน

พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 307 ล้านหุ้นระดมทุนเข้า SET รองรับแผนขยายธุรกิจโตติดปีกบิน

บมจ.พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น หรือ PCC ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ขายหุ้น IPO จำนวน 307 ล้านหุ้นเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยแต่งตั้งให้ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ระดมทุนนำเงินลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและโครงการในอนาคต หนุนธุรกิจโตติดปีก

นายปาลธรรม เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส วาณิชธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น  จำกัด (มหาชน) (PCC) เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกินจำนวน 307,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ประชาชน (Initial Public Offering) หรือคิดเป็นร้อยละ 25.03 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้  โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรม: ทรัพยากร

ทั้งนี้  PCC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ประกอบด้วยสายธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า งานบริหารโครงการ งานบริการงานบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าทั้งแรงต่ำและแรงสูง และระบบบริหารจัดการพลังงาน ให้มีประสิทธิภาพ(Power Distribution & Energy Management System) 2. กลุุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง พร้อมผลิตติดตั้งระบบควบคุมสำหรับระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ และผลิตมิเตอร์อัจฉริยะ (Intelligent Grid) และ 3. กลุ่มธุรกิจลงทุนผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและผลิตเชื้อเพลิงจากพืชพลังงาน และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (Renewable Energy)

นายกิตติ สัมฤทธิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) (PCC) เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และโครงการในอนาคต, เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และนำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน

สำหรับผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2564) มีรายได้รวม 3,931.26 ล้านบาท 4,054.89 ล้านบาท และ 3,638.63 ล้านบาท  และมีกำไรสุทธิ 342.24 ล้านบาท 279.96 ล้านบาท และ 228.32 ล้านบาท ตามลำดับ

ในด้านนโยบายการจ่ายปันผลกำหนดให้จ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองตามกฎหมายของแต่ละปี ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปจากอัตราที่กำหนดไว้ โดยขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง ความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อการลงทุนและขยายงานในอนาคต

ข่าวเกี่ยวข้อง