อีสท์ วอเตอร์ ผนึกกำลังการประปาส่วนภูมิภาค และเมืองพัทยาลงพื้นที่ชลบุรี บรรเทาปัญหาภัยแล้งหนัก เร่งแผนการรองรับปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

อีสท์ วอเตอร์ ผนึกกำลังการประปาส่วนภูมิภาค และเมืองพัทยาลงพื้นที่ชลบุรี บรรเทาปัญหาภัยแล้งหนัก เร่งแผนการรองรับปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

      อีสท์ วอเตอร์ จับมือผนึกกำลังการประปาส่วนภูมิภาค และเมืองพัทยา ส่งรถน้ำประปาเข้าช่วยเหลือประชาฃนในพื้นที่ชลบุรี ทั้งบนฝั่ง และบนเกาะ ยืนยันพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงาน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง แม้คืนท่อส่งน้ำสายหลักแล้ว ยังคงมุ่งมั่นในการบริหารจัดการน้ำภาพรวม และความสำคัญของผู้ใช้น้ำเป็นหลัก

จากเหตุการณ์วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมากรณีเกิดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ชลบุรี อีสท์ วอเตอร์ ไม่นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่ และหามาตรการเพื่อช่วยเหลือปัญหาภัยแล้งในครั้งนี้ ซี่งเป็นปัญหาที่สำคัญระดับประเทศ และพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานเพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น และพร้อมวางแผนการแก้ปัญหาในระยะยาว โดยอีสท์ วอเตอร์ ได้วางแผน และเข้าบรรเทาปัญหาระยะสั้น ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ในพื้นที่ชลบุรีแล้ว ดังนี้

1. พื้นที่เกาะล้าน ปัจจุบันได้รับสัมปทาน และผลิตน้ำได้ 300 ลบ.ม.ต่อวัน เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต โดยน้ำประปาดังกล่าวใช้น้ำทะเลมาผลิตให้เป็นน้ำจืด พร้อมสนับสนุนเมืองพัทยาในการขยายกำลังการผลิตให้เป็น 3,000 ลบ.ม.ต่อวัน ในส่วนความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง อีสท์ วอเตอร์ ได้ร่วมกับเมืองพัทยา และหัวหน้าชุมชนในพื้นที่เกาะล้าน จัดหาน้ำประปาใส่เรือไปให้บนเกาะล้าน สนับสนุนรถน้ำประปาบนเกาะล้าน และนำน้ำไปแจกจ่ายให้ประชาชน

2. พื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง พื้นที่เทศบาลเมืองศรีราชา พื้นที่เทศบาลเมืองพัทยา ปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแหลมฉบัง การประปาส่วนภูมิภาคสาขาศรีราชา และการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยาชั้นพิเศษเป็นผู้ให้บริการผลิตน้ำประปา โดยมีอีสท์ วอเตอร์ จัดหาน้ำดิบจากเอกชน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการส่งคืนมอบท่อให้แก่กรมธนารักษ์บ้าง ในส่วนความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง อีสท์ วอเตอร์ได้ร่วมมือกับการประปาส่วนภูมิภาคทั้ง 3 สาขา จัดหาน้ำประปาเพิ่มเติมเพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน 

เมื่อโครงการท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล - หนองค้อ - แหลมฉบัง ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรีแล้วเสร็จจะสามารถแก้ปัญหาน้ำแล้งในจังหวัดชลบุรีได้ทันที รวมถึงยังเพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำไปให้พื้นที่ชลบุรีได้อย่างเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้น และจะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งของพื้นที่ชลบุรีได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย ปัจจุบันเหลืองานวางท่ออีกประมาณ 10% คาดการณ์โครงการจะแล้วเสร็จในปี 2567

  นอกจากการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ได้แก่

1. โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบคลองหลวง จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวง   รัชชโลทรมายังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ แทนการผันน้ำผ่านคลองพานทอง ความคืบหน้าโครงการวางท่อแล้วเสร็จ 42 กิโลเมตร ในส่วนที่เหลืออีก 7 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการขออนุญาตเข้าก่อสร้างในพื้นที่ของกรมธนารักษ์เท่านั้น ซึ่ง อีสท์ วอเตอร์พร้อมดำเนินการ

2. โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบมาบตาพุต-สัตหีบ ที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และทำการจ่ายน้ำให้กับพื้นที่ประปาสัตหีบ และพื้นที่ประปาพัทยาบางส่วน เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว โดยท่อส่งน้ำสายนี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำให้แก่ภาคอุปโภค บริโภค (กปภ.สัตหีบ กปภ.บ้านฉาง โรงพยาบาลสิริกิติ์ และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา)

อีสท์ วอเตอร์มุ่งมั่น และตั้งปณิธานที่จะดำเนินการให้สำเร็จ ซึ่งการวางท่อส่งน้ำสายหลักเพิ่มเติมที่ได้กล่าวมาข้างต้นจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้โครงการบรรลุถึงเป้าหมายที่คาดหวังไว้ร่วมกัน ปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาที่อีสท์ วอเตอร์ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกหน่วยงาน ปัจจุบันเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงข่ายท่อส่งน้ำ (Water Grid) ของอีสท์ วอเตอร์ ให้กลับมามั่นคง และแข็งแกร่งที่สุดในภาคตะวันออก รองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC สร้างการเติบโต และเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำให้แก่พื้นที่ภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนตลอดไป

ข่าวเกี่ยวข้อง