เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ปิดดีลเงินกู้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า ฟิลิปปินส์พร้อมเดินหน้าก่อสร้างและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไตรมาส 2/2567
บริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด (“เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี”) ประกาศความสำเร็จการจัดหาเงินกู้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า ประเภทโฟโตโวลเทอิก(Photovoltaic: PV) ขนาดกำลังการผลิตสูงสุดรวม 74 เมกะวัตต์ (MWp) ตั้งอยู่ที่เมืองกาลาบังก้า จังหวัดกามารีนส์ ซูร์ ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ความสำเร็จดังกล่าวนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการลงทุนพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนในฟิลิปปินส์
โครงการกาลาบังก้า ดำเนินงานโดย Calabanga Renewable Energy, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในฟิลิปปินส์ สำหรับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโครงการประมาณร้อยละ 85 จะจำหน่ายให้กับบริษัทในเครือของกลุ่ม AboitizPower Corporation จำนวน 2 แห่ง ภายใต้สัญญาจัดหาพลังงานไฟฟ้า ส่วนกระแสไฟฟ้าที่เหลือจะจำหน่ายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Wholesale Electricity Spot Market) หรือจำหน่ายตรงผ่านสัญญาระยะสั้นกับลูกค้าพาณิชย์และลูกค้ารายย่อย โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนเงินกู้แบบมีหลักประกันจาก Security Bank Corporation ในสัดส่วนร้อยละ 70 ของมูลค่าโครงการ โดยมี SB Capital Investment Corporation เป็นผู้จัดการเงินกู้ดังกล่าว
สำหรับการก่อสร้างโครงการกาลาบังก้า จะดำเนินการโดยกลุ่มกิจการค้าร่วมของ PowerChina Huadong Engineering และ PowerChina Philippines Corporation แบบเบ็ดเสร็จ ภายใต้สัญญางานออกแบบวิศวกรรม การจัดหาและก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างโครงการจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ปี2567 และสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้หลังจากนั้น ส่วนการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโครงการโรงไฟฟ้ากาลาบังก้า บริษัทฯ ได้จ้าง PowerChina Philippines Corporation เป็นผู้ดำเนินงานในช่วงสองปีแรกหลังจากเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ หลังจากนั้น เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี จะรับโอนงานเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเพื่อให้ทีมงานเดินเครื่องของบริษัทฯ ดำเนินการต่อไป
เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี สิงคโปร์ (ถือหุ้นร้อยละ 51) และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ถือหุ้นร้อยละ 49) จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2565 โดยจะเป็นแพลตฟอร์ม ที่ช่วยเร่งการเติบโตให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะการผสานความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของทั้งสองฝ่ายจะทำให้โครงการที่กำลังพัฒนาสานต่อจนสำเร็จขณะเดียวกันก็มีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ปัจจุบันเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี มีพอร์ตโรงไฟฟ้าที่ลงทุนและอยู่ภายใต้การบริหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย รวมมากกว่า 4,000 เมกะวัตต์ประกอบด้วยโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง กำลังการผลิตรวม 400 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา กำลังการผลิตรวม 3,600 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงาน
มร. แมทธิว บาร์ตลีย์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี กล่าวว่าบริษัทขอขอบคุณความทุ่มเทและการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสียสำคัญที่ผลักดันให้แผนงานการจัดหาพลังงานทดแทนให้กับประเทศฟิลิปปินส์ของเราสำเร็จได้ด้วยดี เรารู้สึกยินดีที่ได้เข้าไปช่วยจัดส่งไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับบริษัทในเครือของ AboitizPower คือ AP Renewables และAdventenergy สำหรับดำเนินงานให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากนี้ เราขอขอบคุณ Security Bank ซึ่งเป็นผู้ให้กู้รายเดียวของโครงการนี้ ที่ให้การสนับสนุนเงินกู้แก่โครงการ รวมถึง PowerChina Philippines ที่มีความพร้อมเต็มที่สำหรับการก่อสร้างโครงการ
นายสาครินทร์ ตังคะวชิรานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาธุรกิจไฟฟ้า บมจ. ราช กรุ๊ป ในฐานะกรรมการ เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี กล่าวว่า เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่สามารถดำเนินการจัดหาเงินกู้ได้สำเร็จ และโครงการพร้อมเริ่มการก่อสร้างภายใต้การบริหารของเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี เมื่อโครงการกาลาบังก้านี้เริ่มก่อสร้างจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในพอร์ตการลงทุนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในเวียดนามที่มีทั้งเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เราคาดหวังว่า ความสำเร็จครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนให้โครงการอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาและจัดหาเงินกู้ทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เดินหน้าและสำเร็จภายในปีนี้ได้เช่นเดียวกัน
มร. สุเรนเดอร์ สิงห์ ประธานกรรมการ เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี กล่าวเสริมว่า การเริ่มก่อสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในแผนงานของเราในการเพิ่มพลังงานทดแทนเพื่อตอบสนองความต้องการในฟิลิปปินส์ สำหรับการดำเนินการจัดหาเงินกู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ NPSI ประเภทโฟโตโวลเทอิก ขนาดกำลังผลิตสูงสุดรวม 150 เมกะวัตต์ (MWp) ตั้งอยู่ในจังหวัดเนโกรส (Negros) มีความก้าวหน้าด้วยดี และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งบนเกาะลูซอน ซึ่งบริษัทฯ ได้สิทธิดำเนินโครงการจำนวน 5 โครงการกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,000 เมกะวัตต์ ก็มีความก้าวหน้าเป็น อย่างมาก โดยคาดหมายว่าโครงการแรกจะสามารถจัดหาเงินกู้ได้สำเร็จในปี 2567