“ฟินานิโก” จับมือกับสมาคมพิโกไฟแนนซ์ เล็งปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกสมาคมฯ
“ฟินานิโก” จับมือกับสมาคมพิโกไฟแนนซ์ เล็งปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกสมาคมฯ ที่มีกว่า 900 สาขากระจายทั่วประเทศ ประเดิมไตรมาส 2/62 นี้ กำหนดวงเงิน 1-20 ลบ.ต่อราย อัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี ตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมปีนี้ 400 ลบ. ด้าน“สมเกียรติ” นายกสมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมือ และสนับสนุนวิสัยทัศน์ลดหนี้นอกระบบโดยการจัดหาแหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ เชื่อมั่นไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล “พิโกไฟแนนซ์” จะยังอยู่ เพราะเป็นแนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ตรงจุด หนุนให้ประชาชนที่ไม่สามารถใช้บริการธนาคารเข้าถึงแหล่งเงินทุน
สมาคมพิโกไฟแนนซ์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือกับบริษัท ฟินานิโก เพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนด้วยเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) โดยทางฟินานิโกจะเป็นผู้สนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้กับสมาชิกของสมาคมพิโกไฟแนนซ์แห่งประเทศไทย ที่กำลังขยายสู่ 900 สาขากระจายทั่วประเทศไทยให้นำไปใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ(สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคาร สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ นับเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการที่จะพยายามแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
นายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต นายกสมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือดังกล่าวว่า ทางสมาคมฯรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับความร่วมมือดังกล่าว และพร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วยการจัดหาแหล่งเงินทุนที่ตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ โดยเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากสมาชิก
ทางสมาคมฯยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่รวมแหล่งเงินทุน เผยแพร่ความรู้ รวมทั้งยกระดับความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ โดยเล็งเห็นว่าสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ
“ในปี 2562 นี้ สมาคมฯยังคงสานต่อความต้องการของรัฐบาล ที่จะลดหนี้นอกระบบ และภายหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม เชื่อว่า สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จะยังคงได้รับการสนับสนุน เพราะเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ และเป็นปัญหาที่ทุกรัฐบาลต่างมองเห็น โดยประโยชน์สำคัญอีกประการหนึ่งของสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ จะเป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะทำให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคาร ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปใช้ประกอบอาชีพอีกด้วย ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจ” นายกสมาคมพิโกไฟแนนซ์ กล่าว
นายคัมภีร์ ภิรมย์หวาด ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟินานิโก จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าจะเริ่มให้บริการวงเงินสินเชื่อกับสมาชิกของสมาคมพิโกไฟแนนซ์ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2562 โดยจะพิจารณาเลือกให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ที่มีศักยภาพและต้องการเงินทุนขยายธุรกิจเพิ่ม กำหนดให้วงเงินสินเชื่อเฉลี่ย 1-20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี และตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้ น่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อรวมได้ราว 400 ล้านบาท
บริษัท ฟินานิโก จำกัด นับเป็นบริษัทให้บริการฟินเทค ดำเนินธุรกิจบริการจัดหาเงินลงทุนเพื่อธุรกิจ หรือ B2B โดยใช้เทคโนโลยีในการจัดการ ผ่านการปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมีขั้นตอนดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายของไทย
ดร.ฉัตรชัย ธนาฤดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด ผู้ได้รับเกียรติจาก สมาคมฟินเทคประเทศไทย เป็นหนึ่งใน 7 ผู้ทรงอิทธิพลด้าน InsurTech ในไทย กล่าวว่า เทคโนโลยี FinTech เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจการเงินด้วยนวัตกรรมใหม่ โดยเน้นความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เข้าถึง Unbanked People ได้มากกว่า ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ถูกนำมาประยุกต์ใช้หรือสร้างบริการในธุรกิจการเงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Digital Payment, Crowdfunding, P2P Lending ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมากมาย ตัวอย่างที่ใกล้ตัวของฟินเทค เช่น การจ่ายเงินออนไลน์ผ่านแชทใน Facebook หรือการลงทุนออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นต้น
ปัจจุบันมูลค่าตลาดของบริการในธุรกิจการเงินทั่วโลกพุ่งสูงถึง 5 พันล้านเหรียญต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ดังนั้น ผู้ให้บริการทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเองก็นำ FinTech เหล่านี้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา และนำเสนอบริการการเงิน ทั้งในส่วนของ Personal Financeและ Business Finance ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทแทนระบบการเงินแบบดั้งเดิม อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน โดย FinTech เหล่านี้จะสามารถมาช่วยพัฒนาพร้อมกับสร้างอนาคตที่ดีขึ้นโดยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน และธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบธุรกิจ ช่วยลดอุปสรรค และส่งเสริมการพัฒนาประเทศในเชิงเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน